ระเบียบวินัยโรงเรียนชุมชนบ้านนาด้วง ตามความมุ่งหมายและหลักการจัดการศึกษาของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
พ.ศ.2542 มาตรา 6 การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์
ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ และคุณธรรม
มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
ฉะนั้น ทางโรงเรียนจึงได้กำหนดระเบียบสถานศึกษา
ว่าด้วยแนวทางการปฏิบัติตนของนักเรียน
โรงเรียนบ้านบางเทาเพื่อให้บรรลุตามความมุ่งหมายด้วย
โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ โรงเรียน ครูผู้สอน คณะกรรการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
และผู้ปกครองนักเรียน ดังรายละเอียดต่อไปนี้
หมวดที่ 1 วินัยนักเรียนที่พึงปฏิบัติ 1. นักเรียนต้องมีเครื่องแต่งกาย เครื่องเขียน แบบเรียน เครื่องใช้ต่าง ๆ ตามที่โรงเรียนกำหนด 2. นักเรียนแต่งกายให้ถูกต้องตามระเบียบว่าด้วยเครื่องแต่งกายนักเรียนของโรงเรียนตั้งแต่ออกจากบ้านมาโรงเรียนจนกลับบ้าน 3. นักเรียนมาถึงโรงเรียนต้องถือว่าอยู่ในความควบคุมดูแลของครู 4. นักเรียนจะออกนอกบริเวณโรงเรียนต้องได้รับอนุญาตจากครูประจำชั้น ครูประจำรายวิชา ครูเวรประจำวัน/ฝ่ายปกครอง 5. ที่มาโรงเรียนสายต้องมารายงานตัวต่อครู และขอรับบัตรอนุญาตเข้าชั้นเรียนต่อฝ่ายปกครอง และอาจารย์ประจำวิชาทุกครั้ง 6. นักเรียนต้องอยู่ในโอวาทของครู - อาจารย์ ทุกคน ทั้งให้ความเคารพเชื่อฟังคำสั่งสอนไม่แสดงอาการแข็งกระด้าง 7.
นักเรียนต้องประพฤติตนให้เหมาะสมกับสภาพของนักเรียน
เช่นไม่เที่ยวเตร่ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า ไม่เล่นการพนัน ไม่ลักทรัพย์ และทำชู้สาวกับบุคคลภายในและ ภายนอกโรงเรียน
8. นักเรียนต้องแสดงกิริยาสุภาพอ่อนโยนต่อบุคคลทั่วไป รักษาความสามัคคีในหมู่คณะ ไม่กระทำการใด ๆ อันเป็นเหตุนำมาซึ่งความเสื่อมเสียชื่อเสียงมาสู่โรงเรียน 9. นักเรียนต้องเข้าร่วมและช่วยเหลือกิจกรรมโรงเรียนให้เจริญก้าวหน้า 10. นักเรียนต้องมีวัฒนธรรมในการรักษาทรัพย์สมบัติของโรงเรียนมิให้เกิดการชำรุด หมวดที่ 2 การปฏิบัติตนของนักเรียน 1. นักเรียนควรพึงรู้ตนเสมอว่าเป็นนักเรียนต้องปฏิบัติตนให้เป็นระเบียบของโรงเรียนอย่างเคร่งครัด 2. นักเรียนพึงปฏิบัติตนให้เป็นคนดี มีความขยันหมั่นเพียร ซื่อสัตย์สุจริต และปฏิบัติตนให้เป็นที่รักของบิดา-มารดา-ครู 3.
นักเรียนของโรงเรียนบ้านบางเทาทุกคนพึงมีความรักใคร่
สามัคคีกลมเกลียวในระหว่างเพื่อนร่วมชั้นและนับถือรุ่นพี่
รุ่นน้องผู้ใดทำให้เกิดความแตกแยกสามัคคี บ่อนทำลายความสามัคคีและความมั่นคงของหมู่คณะ
คือบุคคลที่ไม่พึงปรารถนาของโรงเรียนบ้านบางเทา
4. นักเรียนของโรงเรียนบ้านบางเทาทุกคน ต้องมีบัตรประจำตัวนักเรียนที่ออกโดยฝ่ายปกครองของโรงเรียน และต้องนำติดตัวทุกครั้งที่มาโรงเรียน หมวดที่ 3 การปฏิบัติก่อนเข้าห้องเรียนของนักเรียน 1. เพลงชาติจบ (08.01 น.) ให้นักเรียนทุกคนเตรียมตัวเข้าแถวหน้าเสาธงโดยพร้อมเพรียงกัน 2. สัญญาณครั้งที่ 1(08.15 น.) เข้าแถวเตรียมตัวรับคำสั่งจากประธานนักเรียน และอาจารย์เวรผู้ประกาศหน้าเสาธง 3. นักเรียนทุกคนต้องร้องเพลงชาติพร้อมกันด้วยความเคารพ สวดมนต์แผ่เมตตา กล่าวคำปฏิญาณ และฟังการอบรม ฟังข่าวสารการนัดหมายด้วยความสงบเรียบร้อย 4. เดินเข้าเรียนแถวสงบเรียบร้อย ไม่นั่งอยู่หน้าห้องหรือแตกแถวไปทำธุระที่อื่นอีกเป็นอันขาด 5.
นักเรียนที่มาทีหลังจากธงชาติขึ้นสู่ยอกเสาแล้ว
ถือว่ามาสายต้องพบอาจารย์เวรและขอบัตรเข้าชั้นจากอาจารย์เวร หรือฝ่ายปกครอง
เพื่อนำไปแสดงต่ออาจารย์ประจำ วิชาที่กำลังสอนอยู่
หมวดที่ 4 การปฏิบัติตนในห้องเรียน 1. นักเรียนต้องอยู่ภายในห้องเรียนด้วยความเรียบร้อย ไม่ส่งเสียงอึกทึกหรือเล่นกัน ไม่ลุกจากที่นั่งก่อนได้รับอนุญาตจากอาจารย์ผู้สอน 2. นักเรียนทุกคนมีหน้าที่ทำความสะอาดห้องเรียนรักษาความสะอาด รักษาทรัพย์สินภายในห้องเรียน ไม่ทุบทำลายและจัดห้องเรียนให้เรียบร้อยน่าอยู่อาศัย 3. นักเรียนไม่นำวิชาอื่นขึ้นมาทำขณะที่ครูกำลังสอนอยู่ 4. ไม่นำอาภรณ์ของมีค่า อาวุธหรือสิ่งอื่นใดที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียนเข้ามาไว้ภายในห้องเรียน 5. ขณะที่ครูกำลังสอน ถ้าออกนอกห้องเรียนต้องขออนุญาตก่อน 6. การเปลี่ยนห้องเรียน ต้องเดินไปเป็นแถว สงบและเรียบร้อย 7. ไม่นำอาหาร เครื่องดื่ม เข้าไปรับประทานในห้องเรียน 8. เมื่อครูประจำวิชาไม่เข้าสอนเกิน 5 นาที ให้หัวหน้าชั้นหรือตัวตัวไปรายงารนอาจารย์หัวหน้าหมวดวิชานั้น เพื่อจัดครูเข้าสอนแทน 9. นักเรียนต้องถอดรองเท้าวางไว้ ณ ที่เก็บที่จัดไว้ให้ ไม่สวมหมวก หรือปลดกระดุมเสื้อ 10. ต้องไม่นำชอล์คหรือสิ่งของภายในห้อง เช่น แปรงลบกระดาน ไว้กวาด มาข้างปาเล่น หรือขีดเขียนโต๊ะ ฝาผนังห้อง โดยเด็ดขาด 11. เมื่อเกิดการวิวาทกันในห้องเรียน หรือระหว่างห้องเรียน อย่าตัดสินกันเอง ควรรายงานให้อาจารย์ประจำชั้น หรือหัวหน้าอาคารทราบ
หมวดที่ 5 การออกนอกห้องเรียนขณะทำการเรียนการสอน 1. ในระหว่างที่มีชั่วโมงเรียน นักเรียนต้องอยู่ในห้องเรียน จะไปอยู่ตามสนามกีฬา โรงอาหารหรือห้องสมุดไม่ได้ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจาดครู-อาจารย์ 2. ถ้าจำเป็นต้องออกจากห้องเรียนต้องขออนุญาตจากอาจารย์ประจำวิชาในชั่วโมงนั้น 3.
ในกรณีที่ครูไม่อยู่หรือยังไม่เข้าสอน
นักเรียนต้องอยู่ในห้องเรียนด้วยความสงบ ไม่ส่งเสียงหรือกระทำการใด ๆ
อันเป็นการรบกวนห้องข้างเคียง ถ้าจำเป็นต้อง ออกนอกห้องต้องแจ้งให้หัวหน้าชั้นทราบ
4. การเข้าห้องเรียนขณะที่อาจารย์ทำการสอนอยู่จะต้องขออนุญาตเป็นการเข้าเรียนช้าควรแสดงบัตรอนุญาตเข้าชั้นเรียน หมวดที่ 6 การปฏิบัติตามกฎจราจร 1. นักเรียนต้องข้ามถนนตรงทางม้าลาย หรือตรงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรบริการอยู่ 2. นักเรียนต้องขึ้นรถโดยสารที่หน้าโรงเรียน 3. เมื่อขึ้นรถแล้วต้องหาที่นั่งภายในรถให้เรียบร้อย อย่ายืนขวางประตูขึ้นลง ห้อยโหนตามบันไดและไม่ขึ้นนั่งบนหลังคารพ 4. นักเรียนต้องนั่งภายในรถให้เรียบร้อยอย่าเดินไปมา 5. เวลาจะขึ้นหรือลงรถ ให้รถจอดสนิทก่อนอย่าเกาะหรือกระโดดลง 6. เมื่อลงรถอย่าข้ามถนนด้านหลังรถ เพราะรถที่สาวนมามองไม่เห็น และอาจจะชนได้ 7. ห้ามนักเรียนโบกรถอื่นที่ไม่ใช่รถประจำทางกลับบ้าน หมวดที่ 7 การขออนุญาตออกนอกบริเวณโรงเรียนหรือกลับบ้าน 1. ผู้ปกครองต้องมาขอลาด้วยตนเอง หรือเป็นลายลักษณ์อักษร การลาทางโทรศัพท์จะไม่อนุญาตเพราะตรวจสอบไม่ได้ 2. นักเรียนแจ้งป่วยกะทันหัน 3. เขียนหนังสืออนุญาตที่ฝ่ายปกครองยื่นต่อครูประจำชั้น ครูประจำวิชา ครูเวร 4. รับบัตรจากฝ่ายปกครองและนำบัตรมาส่งให้ฝ่ายปกครองเมื่อกลับจากธุรกิจแล้ว 5. ในกรณีที่โรงเรียนมีความจำเป็นส่งนักเรียนกลับบ้าน รับแบบส่งนักเรียนกลับบ้านจากฝ่ายปกครองรับทราบแล้วนำมาคืนฝ่ายปกครอง หมวดที่ 8 การรับประทานอาหารกลางวัน 1. ไม่รับประทานอาหารก่อนเวลาพักหรือพักเวลาที่ทางโรงเรียนกำหนด 2. ไม่นำอาหารไปรับประทานในห้องเรียนหรือในห้องประชุม 3. ถ้าจำเป็นต้องรับประทานอาหารก่อนเวลาพักเที่ยง ให้ขออนุญาตจากอาจารย์เวรก่อน 4. ภาชนะที่ใส่อาหารทุกชนิด อย่าทิ้งไว้นอกโรงอาหาร 5. ต้องรักษามารยาทในการรับประทานอาหารไม่นั่งยอง ๆ บนเก้าอี้หรือส่งเสียงดัง หรือรับประทานอาหารอย่างมูมมาม หมวดที่ 9 การแสดงความเคารพ การแสดงความเคารพเป็นการแสดงออกของผู้ที่ได้รับการศึกษา อบรม
โรงเรียนจึงกำหนดระเบียบการเคารพขึ้นเป็นหลักปฏิบัติ
เพื่อปลูกฝังนิสัยให้นักเรียนเป็นคน
สุภาพอ่อนน้อม รู้จักเคารพครูอาจารย์ และผู้ใหญ่ ดังนี้
1.
การแสดงความเคารพภายในโรงเรียน 1.1 นักเรียนต้องถือว่าอาจารย์ภายในโรงเรียนเป็นครู-อาจารย์
ของนักเรียนทุกคนต้องให้ความเคารพ นับถือ เชื่อฟัง 1.2 เมื่อนักเรียนนั่งอยู่กับที่
ถ้ามีครูเดินผ่านมาระยะใกล้พอควร ให้นักเรียนชายยืนตรงหรือยกมือไหว้
นักเรียนหญิงยืนตรงแล้วไหว้ 1.3 เมื่อนักเรียนเดินสวนกับครู
- อาจารย์ ให้นักเรียนหยุดเลี่ยงหันหน้าทำความเคารพเช่นเดียวกับข้อ 1.2 1.4 เมื่อนักเรียนเดินตามหลังอาจารย์ไม่ควรแซงขึ้นหน้า
ถ้าจำเป็นจริง ๆ นักเรียนต้องกล่าวคำว่า "ขอโทษ" ก่อน เช่น พูดคำว่า
"ขอโทษครับ (ค่ะ)" และถ้าอาจารย ์
เดินตามหลังนักเรียนมาใกล้ ๆ ควรหยุดให้อาจารย์เดินผ่านไปก่อน 1.5 ลูกเสือ -
เนตรนารี ยุวกาชาดและนักศึกษาวิชาทหารที่อยู่ในเครื่องแบบ
ให้ทำความเคารพตามระเบียบของเครื่องแบบนั้น ๆ ทุกกรณี 1.6 เมื่อครูเข้าห้องเรียนหรือออกจากห้องเรียน
ให้หัวหน้ากล่าวว่า "นักเรียนเคารพ"
โดยนักเรียนทั้งหมดยืนตรงหรือนักเรียนชายยืนตรง นั่งเรียนหญิงนั่งกราบ และ
กล่าวพร้อมกันว่า "สวัสดีครับ (ค่ะ)" หรือ
"ขอบคุณครับ (ค่ะ)" 1.7 นักเรียนพูดกับอาจารย์ต้องยืนตรงในลักษณะสำรวม
เมื่อพูดเสร็จแล้วแสดงความเคารพก่อนจากไป 1.8 เมื่อนักเรียนเข้าพบครูขณะที่ครูนั่งอยู่ที่โต๊ะ
ให้ยืนห่างโต๊ะประมาณ 1 ก้าว นักเรียน่ชายโค้งาคำนับ
นักเรียนหญิงไหว้แล้วนั่งคุกเข่าลง ในกรณีที่เข้าพบมาก ๆ
ให้เข้าแถวอย่ารุมล้อมโต๊ะครู 1.9 เมื่อมีผู้ใหญ่มาเยี่ยมที่ห้องเรียน
ให้นักเรียนฟังครู - อาจารย์ที่สอนอยู่สั่งการถ้านักเรียนพบในบริเวณโรงเรียน
ให้ทำความเคารพเช่นเดียวกับครู-อาจารย์
2.
แสดงความเคารพภายนอกโรงเรียน เมื่อพบครู -
อาจารย์ภายนอกโรงเรียน ให้นักเรียนทุกคนทำความเคารพโดยการ "ไหว้"
และกล่าวคำว่า "สวัสดี" ถ้านักเรียนสวนกับครูที่ขี่จักรยาน
หรือรถจักรยานยนต์
หมวดที่ 10 การลาป่าย – ลากิจ 1. ผู้ปกครองต้องมาลาต่ออาจารย์ประจำชั้นด้ายตัวเอง 2.
เขียนใบลาโดยมีคำรับรองของผู้ปกครอง
ถ้าลากิจธุระต้องส่งล่วงหน้า 1 วัน
คำรับรองต้องมีลายเซ็นของผู้ปกครองคนเดียวกับใบมอบตัว หรือผู้ปกครองคนที่ 2 (หากปลอมลายเซ็นต์ผู้ปกครองถือเป็นโทษสถานหนัก)
3.
ถ้านักเรียนหยุดเรียนติดต่อกันเกิน 3 วัน โดยไม่แจ้งให้ทางโรงเรียนทราบ
โรงเรียนจะติดต่อกับผู้ปกครองทางไปรษณียบัตร ให้ผู้ปกครองแจ้งเหตุผลมายังโรงเรียน ถ้าส่งทางไปรษณียบัตรแล้วไม่แจ้งมาทางโรงเรียน จะติดต่อกับผู้ปกครอง
ดังนี้
ก.
เชิญผู้ปกครองมาพบที่โรงเรียน ข.
หากผู้ปกครองไม่มาพบภายใน 7 วัน
ฝ่ายปกครองจะเสนอผู้อำนวยการเพื่อสั่งพักการเรียนหรือให้คัดชื่อออก
4. เมื่อนักเรียนส่งใบลาต่ออาจารย์ประจำชั้นให้อาจารย์ประจำชั้นแนบใบลาไว้ในใบเซ็นต์ชื่อของอาจารย์ประจำวิชา ที่หัวหน้าหมวดทุกใบ หมวดที่ 11 การรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของห้องเรียน 1. นักเรียนต้องรักษาความสะอาดของห้องเรียน โดยแบ่งหน้าที่เป็นเวรรักษาความสะอาด 2. นักเรียนต้องช่วยกันรักษาความสะอาดของบริเวณโรงเรียน ไม่ทิ้งเศษกระดาษ หรือขีดเขียนตามโต๊ะอาหาร 3. นักเรียนต้องไม่เคลื่อนย้ายโต๊ะ หรือม้านั่งออกนอกห้องเรียนก่อนได้รับอนุญาต 4. นักเรียนไม่ขีดเขียนฝาผนัง ม้านั่ง ดึงหรือแกะทำลายทรัพย์สินของโรงเรียน เช่น ปลั๊กไฟ สวิตซ์ ไฟฟ้า สายไฟฟ้า กระจกหน้าต่าง ประตู และอื่น ระเบียบว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียน ตามที่โรงเรียนบ้านบางเทา ได้กำหนดให้มีระเบียบของสถานศึกษา
ว่าด้วยแนวทางการปฏิบัติตนของนักเรียนโรงเรียนบ้านบางเทา และระเบียบว่าด้วยการลง โทษนักเรียนนั้น
เพื่อให้เกิดความชัดเจนและเอื้ออำนวยประโยชน์ต่อการใช้ระเบียบดังกล่าว
ทางโรงเรียนจึงได้กำหนดระเบียบว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียน ดังนี้
1. เครื่องแบบนักเรียนชาย 1.1. ชั้นประถมศึกษา 1.1.1 เสื้อเชิ้ตคอตั้ง ผ้าขาวเนื้อเรียบไม่บางจนเกินไป ผ่าอกตลอด สาบกว้าง 3-4
ซ.ม. กระดุมขาว เส้นผ่าศูนย์กลาง 1 ซ.ม.
แขนสั้นเพียงข้อศอกพองามมีกระเป๋ าติดอกข้างซ้ายขนาดกว้าง 8-12 ซ.ม. ลึก 10-15
ซ.ม. ด้านหลังไม่มีจีบ เมื่อใส่เข้าในกางเกงให้เห็นเข็มขัดรัดรอบตัว
1.1.2 กางเกง
ใช้กางเกงผ้าสีกากีทรงแบบไทยขาสั้นเหนือเข่าเมื่อวัดจากกลางลูกสะบ้าประมาณ 10
ซ.ม. ส่วนกว้างขอบขาเมื่อยืนตรงจะกว้างจากขาประมาณ 8-10 ซ.ม. ปลายขาพับไว้ข้างในกว้าง 5 ซ.ม.
ผ่าตรงส่วนหน้าใช้ซิปมีกระเป๋าเล็กข้างหน้า หรือกระเป๋าหลัง มีหูสำหรับสอดเข็มขัด 5-7
หู 1.1.3 เข็มขัด
ใช้เข็มขัดลูกเสือสีน้ำตาลไม่มีลวดลาย กว้าง 3-4 ซ.ม.
เจาะรูเดียวมีปลอกหนังสีเดียวกับเข็มขัด 1.1.4 รองเท้า ใช้รองเท้าผ้าใบหรือหนัง
ชนิดหุ้มส้นสีน้ำตาล ไม่มีลวดลาย มีสายเชือกผูกสีเดียวกับรองเท้า
ห้ามใช้รองเท้าหัวตัด หัวแหลมส้นสูงหรือมีขอบสีขาว
โดยเด็ดขาด 1.1.5 ถุงเท้า
ใช้ถุงเท้าสีน้ำตาล ไม่มีลวดลายหรือสีอื่นปน ยาวครึ่งหน้าแข้ง
เวลาสวมต้องดึงขึ้นมาให้สุด ความยาวของถุงเท้า ห้ามพับ 1.1.6 ทรงผม
นักเรียนชั้นประถมศึกษา ไว้ผมส่วนหน้ายาวไม่เกิน 2 ซ.ม.
ส่วนบนยาวไม่เกิน 1/2 ซ.ม.
2. เครื่องแบบนักเรียนหญิง 2.1 ชั้นประถมศึกษา 2.1.1 เสื้อสีขาวเนื้อเกลี้ยงเรียบ แขนสั้น คอปกทหาร เสื้อไม่รัดรูป
ผ่าอกพอสมควร ห้ามใช้ผ้าฝ้ายหรือผ้าเยื่อไม้ ผ่าลึกพอสมควร อกติดกระดุมกิ๊ป 1
เม็ด
ปกใหญ่ขนาด 10 ซ.ม. ใช้ผ้าสองชิ้น แขนเสื้อยาวเพียงข้อศอกปลายแขนจีบ
6 เกล็ด ผ้าหุ้มปลายแขนกว้าง 3 ซ.ม.
ติดกระดุมกิ๊ปพอดีกับลำแขนตัวเสื้อยาวเกิน บั้นเอวลงไปประมาณ 5-7 ซ.ม.
หรือวัดจากข้อมือขึ้นมาเมื่อยืนตรงระยะตั้งแต่ 10-15 ซ.ม.
ชายขอบเสื้อด้านล่างพับ 3 ซ.ม. มีกระเป๋า 5-9 ซ.ม. ลึก 10-15 ซ.ม.
ติดที่ชายเสื้อข้างขวา 1 ใบ 2.1.2 โบว์ผูกคอใช้ในชั้นประถมศึกษาปีที่
5 -6 ใช้ผ้าสีน้ำเงินซึ่งเป็นสีเดียวกับกระโปรง
ส่วนปลายกว้าง 6-8 ซ.ม. ผูกเสมอกับกระดุมกิ๊ปเม็ดแรก 2.1.3 กระโปรง
ใช้ผ้าสีน้ำเงินเนื้อผ้าไม่หนามาก พื้นเรียบไม่มีลวดลาย ขอบกระโปรงกว้าง 3 ซ.ม. ตีเกล็ดด้านซ้ายขวาข้างละ 3 เม็ด
ด้านหลังตีเกล็ดเช่นเดียว
กับด้านหน้า เกล็ดเย็บตะเข็บตายตัวยาว 2 ซ.ม.
(จีบออกนอกตัวทั้งซ้ายขวา) ความยาวของกระโปรงวัดจากเอว (แนวสะดือ)
ลงมาขณะยืนตรงให้ยาวใต้เข่า ประมาณ10 ซ.ม.
ขอบพับเข้าข้างในแล้วให้มีส่วนกว้าง 2 นิ้ว
2.1.4 ถุงเท้า
ใช้ถุงเท้าสีขาวเนื้อเรียบหนาพอสมควร ไม่มีลวดลาย และขอบไม่มีสีอื่น
เวลาสวมพับขอบประมาณ 3 ซ.ม. และสูงกว่าขอบรองเท้าขึ้นมา
ไม่น้อยกว่า 5 ซ.ม. (ห้ามม้วนกลม) 2.1.5 รองเท้า
ใช้รองเท้านักเรียนหนังสีดำ มีสายรัด หุ้มส้น หัวมน ไม่มีลวดลายส้นสูงไม่เกิน 3
ซ.ม. และห้ามพับสายรัดไปข้างหลังส้นเท้า 2.1.6 ทรงผม
นักเรียนชั้นประถมศึกษา ต้องตัดสั้น ให้มองเห็นติ่งหูเล็กน้อย จะติดกิ๊ปสีดำได้
ห้ามมีลวดลาย ผมไม่ซอย เซ็ท ย้อมสีแดง หรือดัดซอย
ให้หยิกงอ ระเบียบว่าด้วยการลงโทษนักเรียน
ตามที่โรงเรียนได้กำหนดให้มีระเบียบของสถานศึกษาว่าด้วยแนวทางการปฏิบัติตนของนักเรียนโรงเรียนบางเทาไปแล้วนั้น
เพื่อเป็นการเฝ้าระวังป้องกัน มิให้นักเรียน ละเมิดการปฏิบัติตนตามระเบียบของสถานศึกษา
อีกทั้งเป็นการลงโทษนักเรียนที่ประพฤติปฏิบัติตนไม่เป็นไปตามระเบียบของสถานศึกษาที่กำหนด
จึงได้กำหนดระเบียบว่าด้วยกา
รลงโทษนักเรียน โดยสอดคล้องกับระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ
ว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา 2548 ประกอบด้วย 4
สถาน ดังนี้
1. ความผิดสถานเบา ได้แก่ความผิดเล็ก ๆ น้อย ที่ได้แสดงถึงอุปนิสัยความประพฤติ ดังนี้ 1.1 แต่งกายผิดระเบียบ 1.2 กริยาวาจาหยาบคาย 1.3 หนีเรียน ไม่เข้าห้องเรียน 1.4 ไม่รักษาความสะอาดของห้องเรียน
และโรงเรียน 1.5 มาโรงเรียนสายโดยไม่มีเหตุผล 1.6 ปีนรั้วเข้า ออกโรงเรียน 1.7 ส่งเสียงอึกทึกบนห้องเรียนและนอกห้องเรียน 1.8 เล่นกีฬาบนห้องเรียน 1.9 ไม่เข้าแถวเคารพธงชาติ 1.10 นำกระเป๋าผิดระเบียบมาโรงเรียนหรือไม่นำกระเป๋ามาโรงเรียน
ฯลฯ บทลงโทษ พบอาจารย์ที่ปรึกษา เพื่ออบรม บำเพ็ญประโยชน์ 1 ครั้ง
และตัดคะแนน 5 คะแนน
2. ความผิดขั้นปานกลาง ได้แก่ ความผิดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือส่วนรวม
และทำให้โรงเรียนเสียชื่อเสียงของโรงเรียนหมู่คณะตามกรณี ดังนี้ 2.1 ออกนอกบริเวณโรงเรียนโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.2 เที่ยวกลางคืนเป็นนิจ 2.3 ประพฤติตนในทางชู้สาว 2.4 ทะเลาะวิวาท 2.5 เล่นการพนัน 2.6 สูบบุหรี่
หรือมีบุหรี่ในครอบครอง 2.7 ไม่ปฏิบัติตามกฎจราจรหรือผิดระเบียบการใช้รถจักรยานยนต์ 2.8 ไม่ให้ความร่วมมือกับส่วนรวม 2.9 โกหกหรือให้ความเป็นเท็จต่อครู
อาจารย์ 2.10 ขาดเรียนเกิน 3 วัน โดยไม่ทราบสาเหตุ 2.11 ความผิดอื่น ๆ
ที่เทียบเคียงกับความผิดข้างต้น
ฯลฯ บทลงโทษ พบอาจารย์หัวหน้าระดับชั้นเรียน
เพื่ออบรม บำเพ็ญประโยชน์ 1 ครั้ง และตัดคะแนน ครั้งละ 10
คะแนน
3. ความผิดสถานหนัก ได้แก่ ความผิดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น แก่ส่วนรวม และทำให้ชื่อเสียงของโรงเรียนทั้งหมู่คณะ 3.1 นำหนังสือลกมกมาโรงเรียน 3.2 เป็นนักเลงการพนัน 3.3 ทำร้ายผู้อื่น 3.4 เป็นนักเลงอันธพาล 3.5 เสพสิ่งเสพติด ดื่มเครื่องดอง
ของมึนเมา 3.6 ทำลายทรัพย์สินของส่วนรวมโดยเจตนา 3.7 แสดงกริยาลบหลู่ดูหมิ่นครู อาจารย์ 3.8 หรือความผิดอื่น ๆ
ที่เทียบเคียงกับความผิดข้างต้น บทลงโทษ พบครูฝ่ายปกครอง
เพื่ออบรมแก้ไขปรับปรุงพฤติกรรม บำเพ็ญประโยชน์ 1 ครั้งและตัดคะแนน
15 คะแนน
ฯลฯ
4. ความผิดขั้นร้ายแรง ได้แก่ความผิดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น แก่ส่วนรวม
และทำให้เสียชื่อเสียงของโรงเรียนร้ายแรง ซึ่งอาจมีความผิดตามกฎหมาย ดังนี้ 4.1 ลักทรัพย์ 4.2 มียาเสพติดไว้ในครอบครองหรือเพื่อจำหน่าย 4.3 พกพาอาวุธมาโรงเรียน 4.4 มีพฤติกรรมชู้สาวขั้นเสียหาย 4.5 ทะเลาะวิวาทสถานหนักในโรงเรียนหรือนอกโรงเรียน 4.6 ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงหรือกระทำการใด
ๆ ที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของโรงเรียนอย่างมาก 4.7 ความผิดอื่น ๆ
ที่เทียบเคียงกับความผิดข้างต้น
ฯลฯ บทลงโทษ พบรองผู้อำนวยการฝ่ายปกครอง เพื่อทำทัณฑ์บนแก้ไขปรับปรุงพฤติกรรม
บำเพ็ญประโยชน์
|
คู่มือนักเรียน >